ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

โปรเจค Arduino UNO + Blynk ปิด เปิด ไฟ LED ผ่าน อินเตอร์เน็ต


โปรเจค นี้จะเป็นการนำ Arduino UNO ควบคุมการแสดงผล ปิดเปิด ไฟ LED ผ่าน ทุกที่ ที่สามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้  ด้วยแอพ Blynk ที่สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ Device ของเราเข้ากับ internet ได้อย่างง่ายดาย

IoT หรือ Internet of Things หรือเทคโนโลยีของ อุปกรณ์และเครื่องใช้ต่างๆ ที่จะทำงานโดยมีการเชื่อมโยงถึงกันผ่านทางเครือข่ายอินเทอร์เน็ต กำลังเป็นเทคโนโลยีที่ถูกพูดถึงมากขึ้นเรื่อยๆ เราได้เห็นทั้งฮาร์ดแวร์รุ่นใหม่ๆ มีการประกาศมาตรฐาน มีทั้งบริการและเครื่องมือชนิดใหม่ ออกมาให้ได้ติดตามกันอย่างต่อเนื่อง  และ ก็มีบริการที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก โดยเจ้าบริการที่ว่านี้มีชื่อว่า Blynk




 Blynk Application เป็นโปรแกรมบนมือถือที่ทำให้เราสร้างหน้าต่างควบคุมหรือแสดงผลเชื่อมต่อกับพวกไมโครคอนโทรเลอร์(Ardunio, ESP8266, Raspberry Pi) ได้ง่ายๆ และยังสามารถควบคุมผ่าน ทุกที่ ที่สามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต ได้อีกด้วย



อุปกรณ์ที่ใช้


1. Arduino UNO R3 - Made in italy

2. สาย Jumper Female to Male ยาว 20cm.

3. สาย Jumper Male to Male ยาว 20cm.

4. Prototype PCB Board 4x6 cm Double Sides

5. แผ่นอะคริลิคใส ขนาด 15 x 30 เซนติเมตร

6. สกรูหัวกลม+น็อตตัวเมีย ขนาด 3มม ยาว 12มม

7. Relay 1 Channel DC 5V Module

8. SMD LED Lighting G4 AC DC 12V

9. รางถ่าน AA 8 ก้อน


...


การต่อวงจร ระหว่าง Relay กับ Arduino UNO







Relay
 <--> UNO

5V <--> 5V
GND <--> GND
IN <--> D7



การต่อวงจร ระหว่าง UNO Relay + LED + รางถ่าน




ไปที่ Play Store ค้นหา Blynk

ติดตั้ง เหมือน App ทั่วๆไป



เปิด Blynk Application ขึ้นมา

-> Create New Account






กรอก อีเมล และ พาสเวิด -> Sign Up




-> New Project





เลือก DEVICE



เลือกเป็น Arduino UNO





เลือก connection type เป็น USB




ตั้งชื่อ Project ในตัวอย่างชื่อ led-v1 -> Create




โปรกรม จะส่ง Auth Toke ไปที่ อีเมล ที่เรากรอกไว้ -> OK


โดยทุกๆครั้งที่เริ่มสร้างโปรเจคใหม่ AUTH TOKEN จะถูกเปลี่ยนใหม่เสมอ ซึ่ง KEY นี้เองที่เป็นเสมือนกุญแจสำหรับเชื่อมต่อ


คลิก เครื่องหมาย +




คลิก เพิ่ม Button




จะมี ปุ่ม BUTTON เพิ่มเข้ามาที่หน้าจอ แล้วจึง คลิกที่ BUTTON เพื่อตั้งค่า




เลือก เป็นแบบ SWITCH แล้ว คลิก ที่ PIN




Select pin -> Digital -> D7 -> CONTINUE




BUTTON จะอยู่ริมซ้ายมือบน




เพื่อความสวยงาม ให้ ลาก BUTTON ไว้กลางหน้าจอ





ติดตั้ง ไลบรารี่ Blynk สำหรับ Arduino IDE


ดาวน์โหลด ไลบรารี่ Blynk ได้ที่



https://github.com/blynkkk/blynk-library



 คลิกที่ Clone or download





คลิกที่ Download ZIP




เปิด โปรแกรม Arduino IDE 





ไปที่ Skecth -> Include Library -> Add .ZIP Library...





ไปที่ ไลบรารี blynk-library-master.zip ที่เรา ดาวน์โหลด มา -> Open




ตรวจสอบที่ Skecth -> Include Library  จะพบ ไลบรารี Blynk เพิ่มเข้ามาใน Arduino IDE ของเรา





เมื่อเพิ่มเสร็จแล้วไปที่ File -> Eamples -> Blynk -> Boards_USB_Serial -> Arduino_Serial_USB





แก้ไข YourAuthToken ที่เราได้รับจาก อีเมล



ที่เราได้รับจาก อีเมล






เมื่อแก้ไขแล้ว อัพโหลดโค้ด ไปยัง  Arduino UNO




/*************************************************************
  Download latest Blynk library here:
    https://github.com/blynkkk/blynk-library/releases/latest

  Blynk is a platform with iOS and Android apps to control
  Arduino, Raspberry Pi and the likes over the Internet.
  You can easily build graphic interfaces for all your
  projects by simply dragging and dropping widgets.

    Downloads, docs, tutorials: http://www.blynk.cc
    Sketch generator:           http://examples.blynk.cc
    Blynk community:            http://community.blynk.cc
    Social networks:            http://www.fb.com/blynkapp
                                http://twitter.com/blynk_app

  Blynk library is licensed under MIT license
  This example code is in public domain.

 *************************************************************
  =>
  =>          USB HOWTO: http://tiny.cc/BlynkUSB
  =>

  Feel free to apply it to any other example. It's simple!
 *************************************************************/

/* Comment this out to disable prints and save space */
#define BLYNK_PRINT DebugSerial


// You could use a spare Hardware Serial on boards that have it (like Mega)
#include <SoftwareSerial.h>
SoftwareSerial DebugSerial(2, 3); // RX, TX

#include <BlynkSimpleStream.h>

// You should get Auth Token in the Blynk App.
// Go to the Project Settings (nut icon).
char auth[] = "bd1043f4d0084767b4a7f5650ce12c26"; // ต้องแก้ไข


void setup()
{
  // Debug console
  DebugSerial.begin(9600);

  // Blynk will work through Serial
  // Do not read or write this serial manually in your sketch
  Serial.begin(9600);
  Blynk.begin(Serial, auth);
}

void loop()
{
  Blynk.run();
}


**** ต้องแก้ไข  USB Port ของ Arduino UNO ให้ตรงกัน ****

ในตัวอย่าง จะเป็น COM3




ไปที่ Arduino ไลบรารี่ blynk-library-0.x.x คลิกขวาเปิดไฟล์ blynk-ser เพื่อทำการแก้ไข



ตรง COMM_PORT แก้ไขให้ตรงกับ Port  Arduino ของเรา ในตัวอย่างคือ COM3 แล้วจึง Save




จากนั้น คลิกซ้าย เปิดไฟล์ให้ทำงาน (ต้องเปิดไฟล์นี้ไว้ตลอดในขณะทดสอบ)



กลับไปที่ Blynk Application คลิกที่ เครื่องหมาย สามเหลี่ยม



เพื่อทดสอบการทำงานของโปรแกรม led-v1




...

วีดีโอผลลัพธ์การทำงานของ โปรเจค Arduino UNO + Blynk ปิด เปิด ไฟ LED ผ่าน อินเตอร์เน็ต




โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

การใช้งาน IR Infrared Obstacle Avoidance Sensor Module

โมดูลเซ็นเซอร์แสงสำหรับตรวจจับวัตถุกีดขวาง   IR Infrared Obstacle Avoidance Sensor Module โมดูลเซ็นเซอร์แสงสำหรับตรวจจับวัตถุกีดขวาง    IR Infrared Obstacle Avoidance Sensor Module โดยโมดูลนี้ จะมีตัวรับและตัวส่ง infrared ในตัว ตัวสัญญาณ(สีขาว) infrared จะส่งสัญญาณออกมา และเมื่อมีวัตถุมาบัง คลื่นสัญญาณ infrared  ที่ถูกสั่งออกมาจะสะท้องกลับไปเข้าตัวรับสัญญาณ (สีดำ) สามารถนำมาใช้ตรวจจับวัตถุที่อยู่ตรงหน้าได้ และสามารถปรับความไว ระยะการตรวจจับ ใกล้หรือไกลได้ ภายตัวเซ็นเซอร์แบบนี้จะมีตัวส่ง Emitter และ ตัวรับ Receiver ติดตั้งภายในตัวเดียวกัน ทำให้ไม่จำเป็นต้องเดินสายไฟทั้งสองฝั่ง เหมือนแบบ Opposed Mode ทำให้การติดตั้งใช้งานได้ง่ายกว่า แต่อย่างไรก็ตามจำเป็นต้องติดตั้งตัวแผ่นสะท้อนหรือ Reflector ไว้ตรงข้ามกับตัวเซ็นเซอร์เอง โดยโฟโต้เซ็นเซอร์แบบที่ใช้แผ่นสะท้อนแบบนี้จะเหมาะสำหรับชิ้นงานที่มีลักษณะทึบแสงไม่เป็นมันวาว เนื่องจากอาจทำให้ตัวเซ็นเซอร์เข้าใจผิดว่าเป็นตัวแผ่นสะท้อน และ ทำให้ทำงานผิดพลาดได้ เซ็นเซอร์แบบนี้จะมีช่วงในการทำงาน หรือ ระยะในการตรวจจับจะได้ใกล้กว่าแบบ O

การติดตั้ง Library ของ DHT Sensor DHT11 , DHT21 , DHT22

การติดตั้ง Library ของ DHT Sensor ไลบรารี DHT ใช้สำหรับในการให้เซ็นเซอร์ DHT  อ่านอุณหภูมิและความชื้นด้วย  Arduino หรือ ESP8266 ได้ คลิกที่นี่เพื่อดาวน์โหลดไลบรารี ของเซ็นเซอร์ DHT https://github.com/adafruit/DHT-sensor-library เปิดโปรแกรม Arduino IDE  ไปที่ Skecth -> Include Library -> Add .ZIP Library... ไปที่ ไลบรารี DHT-sensor-library ที่เรา ดาวน์โหลด มา ตรวจสอบที่ Skecth -> Include Library  จะพบ ไลบรารี DHT sensor library เพิ่มเข้ามาใน Arduino IDE ของเรา ไปที่ Skecth -> Include Library -> Manage Libraries... ไปที่ช่องค้นหา พิมพ์ DHT -> Enter (เพื่อค้นหา DHT sensor library ) เมื่อพบ DHT sensor library แล้ว ให้คลิก More info คลิกที่ Select Vers.. ในตัวอย่าง เลือก Version 1.2.3 คลิก Install คลิก Close เพิ่ม #include <DHT.h> ไปที่ส่วนบนสุดของโค้ด #include <DHT.h> void setup() {   // put your setup code here, to run once: } void loop() {   // put your main

ESP32 #2: การติดตั้ง Arduino core for ESP32 WiFi chip

ในบทความนี้จะเป็นการแนะนำการติดตั้งโปรแกรม Arduino IDE ตั้งแต่ต้น ไปจนถึงการติดตั้งชุดพัฒนา Arduino core for ESP32 WiFi chip และ การตรวจสอบว่าติดตั้งสำเร็จหรือไม่ “Arduino” แต่เดิมเป็นแพลตฟอร์มที่ใช้ในการพัฒนาเฟิร์มแวร์ให้กับบอร์ด Arudino เท่านั้น แต่ภายหลังกลุ่มผู้พัฒนาโปรแกรม Arduino IDE ได้เริ่มรองรับการติดตั้งชุดพัฒนาเฟิร์มแวร์ให้กับบอร์ดอื่น ๆ ด้วย ทำให้บอร์ดอื่น ๆ ที่รองรับการเขียนโปรแกรมด้วยภาษา C/C++ สามารถเข้ามาใช้โปรแกรม Arduino IDE ในการพัฒนาได้ นอกจากข้อดีของโปรแกรม Arduino IDE แล้ว ชุดไลบารี่ต่าง ๆ ที่ทำมารองรับกับแพลตฟอร์ม Arduino ก็จะสามารถนำมาใช้งานกับบอร์ดอื่น ๆ ได้ด้วย การจะใช้ Arduino core for ESP32 กับ Arduino IDE ได้นั้น มีขั้นตอนดังนี้ คือ 1. ติดตั้งโปรแกรม Arduino (IDE) ลิงค์ดาวโหลด Arduino (IDE)  https://www.arduino.cc/en/Main/Software 2. ติดตั้ง แพลตฟอร์ม ESP32 ในการเริ่มต้นเราจะต้องอัปเดตผู้จัดการบอร์ดด้วย URL ที่กำหนดเอง เปิด Arduino IDE และไปที่ File > Preferences คัดลอก URL ด้านล่างลงใน Additional Board Manager URLs: แล้ว คลิก