ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

โปรเจค Arduino เปิด ปิดไฟ AC 220V ด้วยเสียง



เปิดปิดไฟ AC 220V ด้วยเสียง


เรียนรู้วิธีควบคุม Arduino  ด้วย เซ็นเซอร์เสียง Voice Sound Detection Sensor Module เราจะควบคุม การ เปิด ปิดไฟ AC 220V ด้วยเสียงตบมือ โดยเราจะใช้เซ็นเซอร์ตรวจจับเสียง +  รีเลย์ และแสดงผลด้วยไฟ หลอดไฟบ้าน


(เพื่อความปลอดภัย : ผู้ทำโปรเจค ควรมี ความรู้ด้านไฟฟ้าเป็นอย่างดี)



อุปกรณ์ที่ใช้



1. Arduino UNO R3 - Made in italy


2. Sensor Shield V 5.0

3. สาย Jumper Female to Male ยาว 20cm.

4. สาย Jumper Female to Female ยาว 20cm.

5. Relay 1 Channel 5V DC Solid State High Level Trigger


6. Voice Sound Detection Sensor Module

7. สกรูหัวกลม+น็อตตัวเมีย ขนาด 3มม ยาว 12มม


อุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ เช่น หลอดไฟ , ปลั๊กไฟ , ขั้วหลอดไฟ , สายไฟ หาซื้อได้ตามร้านขายอุปกรณ์ไฟฟ้าทั่วๆไป


การต่อวงจร ระหว่าง  
Sensor Shield กับ เซ็นเซอร์เสียง



Shield <-> เซ็นเซอร์เสียง

G     <-> GND
V     <-> VCC
S(4) <-> OUT


การต่อวงจร ระหว่าง  Sensor Shield กับ รีเลย์






Shield <-> 
รีเลย์

G     <-> DC-
V     <-> DC+
S(5) <-> CH1


การต่อวงจร ระหว่าง  Sensor Shield + เซ็นเซอร์เสียง + 
รีเลย์




ใช้สาย USB เชื่อมต่อระหว่าง คอมพิวเตอร์ กับ Arduino UNO R3





บล็อกไดอะแกรม





อธิบายโค้ด



int sound_sensor = 4;  // ประกาศให้พินดิจิตอล 4 เป็นตัวแปรชื่อ sound_sensor มีชนิดของข้อมูลคือ int คือ เลขจำนวนเต็ม 

int relay = 5;   // ประกาศให้พินดิจิตอล 5 เป็นตัวแปรชื่อ relay มีชนิดของข้อมูลคือ int คือ เลขจำนวนเต็ม                               

int clap = 0;  // ประกาศตัวแปรชื่อ clap มีชนิดของข้อมูลคือ int คือ เลขจำนวนเต็ม มีค่าเริ่มต้น เป็น 0

long detection_range_start = 0;  // ประกาศตัวแปรชื่อ detection_range_start มีชนิดของข้อมูลคือ long คือ เลขจำนวนเต็ม มีค่าเริ่มต้น เป็น 0

long detection_range = 0;   // ประกาศตัวแปรชื่อ long detection_range มีชนิดของข้อมูลคือ long คือ เลขจำนวนเต็ม มีค่าเริ่มต้น เป็น 0

boolean status_lights = false;   // ประกาศตัวแปรชื่อ status_lights มีชนิดของข้อมูลคือ boolean คือ มีค่าได้เพียงสองค่าคือ จริง-true และ เท็จ-false โดยให้มีค่าเริ่มต้น เป็น เท็จ-false 

void setup() { // ฟังก์ชัน setup จะทำงานครั้งแรก เพียงครั้งเดียวเท่านั้น

pinMode(sound_sensor, INPUT);   //  ให้ พินดิจิตอล 4 ตัวแปร sound_sensor เป็นพินโหมด แบบอินพุท เพื่อรับค่า จากเซ็นเซอร์เสียง

pinMode(relay, OUTPUT);   //  ให้ พินดิจิตอล 5  ตัวแปร relay เป็นพินโหมด แบบเอาท์พุทเพื่อส่งค่าการทำงานให้กับ รีเลย์

}  // สิ้นสุดการทำงานของฟังก์ชัน setup



void loop() {   // ฟังก์ชัน loop จะทำงานซ้ำ วนลูป ไปเรื่อยๆ

int status_sensor = digitalRead(sound_sensor);  // ประกาศตัวแปร status_sensor และรับค่าจาก พินดิจิตอล 4 ตัวแปร sound_sensor

  if (status_sensor == 0)   // ถ้า status_sensor เท่ากับ 0 

  {
     
    if (clap == 0)   // ถ้า clap เท่ากับ 0

     {

       detection_range_start = detection_range = millis();   // ให้ตัวแปร detection_range_start และ detection_range มีค่าเท่ากับ millis หรือ milliseconds คือการจับเวลาของ Arduino ทันทีที่มีไฟเลี้ยงเข้า

      clap++;   // ให้ clap มีค่าอยู่เท่าไรให้บวกหนึ่ง

    }
 
      
else if (clap > 0 && millis()-detection_range >= 50) // ถ้า clap มากกว่า 0 และ millis ลบกับ detection_range มากกว่าหรือเท่ากับ 50

     {
   
       
detection_range = millis();   // ให้ detection_range เท่ากับ millis

       clap++;   // ให้ clap มีค่าอยู่เท่าไรให้บวกหนึ่ง

    } 

   }

   if (millis()-detection_range_start >= 400)  // ถ้า millis ลบกับ detection_range_start มากกว่าหรือเท่ากับ 400

   {

     if (clap == 2)  // ถ้า clap เท่ากับ 2

     {

       if (!status_lights)   // ถ้า status_lights เป็นเท็จ

        {
           
           status_lights = true;   // ให้ status_lights เท่ากับ จริง 

           digitalWrite(relay, HIGH);   // ส่งข้อมูล HIGH ไปที่รีเลย์ เพื่อให้ไฟติด

        }
         
          else if (status_lights)   // ถ้า status_lights เป็นจริง

        {
           
           status_lights = false;   // ให้ status_lights เป็นเท็จ

           digitalWrite(relay, LOW);   // ส่งข้อมูล LOW ไปที่รีเลย์  เพื่อให้ไฟดับ

         }
     }

     clap = 0;   // ให้ clap  เท่ากับ 0

   }

 }   // สิ้นสุดการทำงานของฟังก์ชัน loop แล้วเริ่มทำงานฟังก์ชัน loop ใหม่ซ้ำไปเรื่อยๆ




อัพโหลดโค้ด


เปิดโปรแกรม Arduino (IDE) และ Upload โค้ดนี้ ไปยัง บอร์ด Arduino UNO R3




int sound_sensor = 4;

int relay = 5;

int clap = 0;
long detection_range_start = 0;
long detection_range = 0;
boolean status_lights = false;

void setup() {
  pinMode(sound_sensor, INPUT);
  pinMode(relay, OUTPUT);
}

void loop() {
  int status_sensor = digitalRead(sound_sensor);
  if (status_sensor == 0)
  {
    if (clap == 0)
    {
      detection_range_start = detection_range = millis();
      clap++;
    }
    else if (clap > 0 && millis()-detection_range >= 50)
    {
      detection_range = millis();
      clap++;
    }
  }
  if (millis()-detection_range_start >= 400)
  {
    if (clap == 2)
    {
      if (!status_lights)
        {
          status_lights = true;
          digitalWrite(relay, HIGH);
        }
        else if (status_lights)
        {
          status_lights = false;
          digitalWrite(relay, LOW);
        }
    }
    clap = 0;
  }

}




ไปที่ Tools > Board เลือกเป็น Arduino/Genuino UNO



ไปที่ Tools > Port แล้วเลือกพอร์ตที่ปรากฏ (กรณีใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่มี COM Port มากกว่าหนึ่ง  ให้เลือกตัวอื่นที่ไม่ใช่ COM1)

ในตัวอย่างเลือกเป็น "COM3"

(ถ้ายังว่าง หรือ เป็น COM1 ให้ตรวจสอบการติดตั้งไดร์เวอร์ การต่อสาย USB ของ Arduino UNO)



(ถ้าไม่พบให้ทำการติดตั้งไดร์เวอร์ก่อน) 
การติดตั้งโปรแกรม Arduino (IDE) และ การติดตั้งไดร์เวอร์




กดปุ่ม 
 เพื่ออัพโหลด


หากสามารถอัพโหลดโปรแกรมลงบอร์ดได้สำเร็จ จะแสดงคำว่า Done uploading. ที่แถบด้านล่าง



ให้เอาไขควงหมุน ปรับค่าการรับสัญญาณเสียง โดยให้หมุนตัว R ปรับค่าได้ แบบ trimpot สีฟ้า



ให้ไฟ LED สีเขียว ด้านซ้ายมือติดดวงเดียว เมื่อตบมือให้  LED สีเขียวด้านขวามือ กระพริบ ตาม การตบมือของเรา




และ เมื่อตบมือ 2 ครั้ง ให้ ไฟ LED สีแดง ที่ รีเลย์ ติด และ เมื่อ ตบมืออีก 2 ครั้ง ให้ ไฟ LED สีแดง ที่ รีเลย์ ดับ




การต่อวงจร ระหว่าง  หลอดไฟ กับ รีเลย์





ภาพรวมการต่อวงจร




วีดีโอผลลัพธ์ โปรเจค Arduino เปิด ปิดไฟ AC 220V ด้วยเสียง


โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

การใช้งาน IR Infrared Obstacle Avoidance Sensor Module

โมดูลเซ็นเซอร์แสงสำหรับตรวจจับวัตถุกีดขวาง   IR Infrared Obstacle Avoidance Sensor Module โมดูลเซ็นเซอร์แสงสำหรับตรวจจับวัตถุกีดขวาง    IR Infrared Obstacle Avoidance Sensor Module โดยโมดูลนี้ จะมีตัวรับและตัวส่ง infrared ในตัว ตัวสัญญาณ(สีขาว) infrared จะส่งสัญญาณออกมา และเมื่อมีวัตถุมาบัง คลื่นสัญญาณ infrared  ที่ถูกสั่งออกมาจะสะท้องกลับไปเข้าตัวรับสัญญาณ (สีดำ) สามารถนำมาใช้ตรวจจับวัตถุที่อยู่ตรงหน้าได้ และสามารถปรับความไว ระยะการตรวจจับ ใกล้หรือไกลได้ ภายตัวเซ็นเซอร์แบบนี้จะมีตัวส่ง Emitter และ ตัวรับ Receiver ติดตั้งภายในตัวเดียวกัน ทำให้ไม่จำเป็นต้องเดินสายไฟทั้งสองฝั่ง เหมือนแบบ Opposed Mode ทำให้การติดตั้งใช้งานได้ง่ายกว่า แต่อย่างไรก็ตามจำเป็นต้องติดตั้งตัวแผ่นสะท้อนหรือ Reflector ไว้ตรงข้ามกับตัวเซ็นเซอร์เอง โดยโฟโต้เซ็นเซอร์แบบที่ใช้แผ่นสะท้อนแบบนี้จะเหมาะสำหรับชิ้นงานที่มีลักษณะทึบแสงไม่เป็นมันวาว เนื่องจากอาจทำให้ตัวเซ็นเซอร์เข้าใจผิดว่าเป็นตัวแผ่นสะท้อน และ ทำให้ทำงานผิดพลาดได้ เซ็นเซอร์แบบนี้จะมีช่วงในการทำงาน หรือ ระยะในการตรวจจับจะได้ใกล้กว่าแบบ O

การติดตั้ง Library ของ DHT Sensor DHT11 , DHT21 , DHT22

การติดตั้ง Library ของ DHT Sensor ไลบรารี DHT ใช้สำหรับในการให้เซ็นเซอร์ DHT  อ่านอุณหภูมิและความชื้นด้วย  Arduino หรือ ESP8266 ได้ คลิกที่นี่เพื่อดาวน์โหลดไลบรารี ของเซ็นเซอร์ DHT https://github.com/adafruit/DHT-sensor-library เปิดโปรแกรม Arduino IDE  ไปที่ Skecth -> Include Library -> Add .ZIP Library... ไปที่ ไลบรารี DHT-sensor-library ที่เรา ดาวน์โหลด มา ตรวจสอบที่ Skecth -> Include Library  จะพบ ไลบรารี DHT sensor library เพิ่มเข้ามาใน Arduino IDE ของเรา ไปที่ Skecth -> Include Library -> Manage Libraries... ไปที่ช่องค้นหา พิมพ์ DHT -> Enter (เพื่อค้นหา DHT sensor library ) เมื่อพบ DHT sensor library แล้ว ให้คลิก More info คลิกที่ Select Vers.. ในตัวอย่าง เลือก Version 1.2.3 คลิก Install คลิก Close เพิ่ม #include <DHT.h> ไปที่ส่วนบนสุดของโค้ด #include <DHT.h> void setup() {   // put your setup code here, to run once: } void loop() {   // put your main

ESP32 #2: การติดตั้ง Arduino core for ESP32 WiFi chip

ในบทความนี้จะเป็นการแนะนำการติดตั้งโปรแกรม Arduino IDE ตั้งแต่ต้น ไปจนถึงการติดตั้งชุดพัฒนา Arduino core for ESP32 WiFi chip และ การตรวจสอบว่าติดตั้งสำเร็จหรือไม่ “Arduino” แต่เดิมเป็นแพลตฟอร์มที่ใช้ในการพัฒนาเฟิร์มแวร์ให้กับบอร์ด Arudino เท่านั้น แต่ภายหลังกลุ่มผู้พัฒนาโปรแกรม Arduino IDE ได้เริ่มรองรับการติดตั้งชุดพัฒนาเฟิร์มแวร์ให้กับบอร์ดอื่น ๆ ด้วย ทำให้บอร์ดอื่น ๆ ที่รองรับการเขียนโปรแกรมด้วยภาษา C/C++ สามารถเข้ามาใช้โปรแกรม Arduino IDE ในการพัฒนาได้ นอกจากข้อดีของโปรแกรม Arduino IDE แล้ว ชุดไลบารี่ต่าง ๆ ที่ทำมารองรับกับแพลตฟอร์ม Arduino ก็จะสามารถนำมาใช้งานกับบอร์ดอื่น ๆ ได้ด้วย การจะใช้ Arduino core for ESP32 กับ Arduino IDE ได้นั้น มีขั้นตอนดังนี้ คือ 1. ติดตั้งโปรแกรม Arduino (IDE) ลิงค์ดาวโหลด Arduino (IDE)  https://www.arduino.cc/en/Main/Software 2. ติดตั้ง แพลตฟอร์ม ESP32 ในการเริ่มต้นเราจะต้องอัปเดตผู้จัดการบอร์ดด้วย URL ที่กำหนดเอง เปิด Arduino IDE และไปที่ File > Preferences คัดลอก URL ด้านล่างลงใน Additional Board Manager URLs: แล้ว คลิก